วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

English Tense : ว่ากันด้วยเรื่อง หลักของ Tense ต่างๆ ที่จำไม่ค่อยได้

เรียน เพื่อนๆ รป.ม.3 รามคำแหง หัวหมาก ทุกท่าน
ปวดหัวกับเรื่องเรียนกันมาเยอะแล้ว มาฝึกจำ Tense กันดีกว่า
(ไม่แน่ใจว่าจะทำให้หายปวดหัว หรือปวดหัวยิ่งกว่าเดิม)
พอดีไปเก็บตกมาจากที่เจ้านายที่ทำงานที่ใจดีมาก สอนฟรีในตอนเที่ยงครึ่งถึงบ่ายโมงครึ่งทุกวัน
-----------------------------------------
Tense ปกติในภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย 3 ประเภท ได้แก่
1. Present tense ปัจจุบันกาล
2. Past tense อดีตกาล
3. Future tense อนาคตกาล

ในแต่ละ Tense จะประกอบด้วย Tense ย่อยอีก 3 ถึง 4 ประเภท ได้แก่
1) Simeple tense
2) Perfect tense
3) Continuous tense
4) Perfect Progressive tense
-----------------------------------------
มีรายละเอียด ดังนี้ (โปรดท่องจำให้ขึ้นใจเลยนะ ถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษ โดยไม่ต้องสนใจตัวอย่างประโยค)
*** เจ้านายเน้นให้ท่องจำ เพราะจำเป็นมากๆ ***
-----------------------------------------
1. Present tense
1.1 Present Simple tense [V1]
ใช้ในกรณีต่อไปนี้
1.1.1 ข้อความที่พูดเป็นจริงเสมอทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต (ถ้า subject หรือประธานเป็นเอกพจน์บุรษที่ 3 กริยาต้องเติม s)
1.1.2 ข้อความที่พูดเป็นเหตุการณ์หรือกิจกรรมที่เกิดขึ้นเป็นปกติวิสัย สม่ำเสมอ อาจเกิดขึ้นในอดีต ปัจจุบัน และเลยไปถึงอนาคต อาทิเช่น every..., daily..., weekly...
1.1.3 ใช้ในรูป future tense กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ โดยมี adv of time เป็นตัวขยายประโยค เช่น is going to..., is to...
1.1.4 เมื่ออยู่ในรูป Condition (ประโยคเงื่อนไข) เช่น If I see him I will tell him.
1.1.5 ใช้ในประโยคอุทาน

1.2 Present Perfect tense [have,has]+V3
1.2.1 เป็นเหตุการณ์ที่กระทำในอดีตแต่ยังมีผลต่อมาถึงปัจจุบัน โดย...
Past tense: เหตุการณ์จบไปแล้วในอดีตและไม่มีอะไรที่จะพูดถึงอีก
Present Perfect tense: เหตุการณ์จบไปแล้วในอดีตแต่ผลยังสนใจจะพูดถึงอยู่
1.2.2 ใช้กับประโยคที่เป็นประธานของประโยคจะต้องมีชีวิตอยู่หรือยังปรากฏอยู่ **ถ้าประธานตายไปแล้ว หรือหายไปแล้วจะต้องใช้ Past tense แทน
1.2.3 เหตุการณ์นั้นเพิ่งสิ้นสุดลง ขยายด้วย just, aleady, recently, lately now และ finally
1.2.4 ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันและจะดำเนินต่อไปในอนาคต จะต้องมีระยะเวลาปรากฎอยู่ด้วย (ถ้าไม่มีระยะเวลา จะต้องใช้ Present Perfect continuous แทน)

1.3 Present continuous tense [Be + Ving]
1.3.1 ใช้กับกริยาที่แสดงการเคลื่อนไหว หรือการเปลี่ยนแปลง แสดงอนาคต
1.3.2 Be + [Die (ตาย) หรือ Dine (กิน) หรือ Eat (กิน) หรือ Have (ดื่ม กิน สนุก ทำให้)] + ing
1.3.3 is going แสดงอนาคต เช่น He is going to be married in June.
1.3.4 แต่ถ้าเหตุการณ์ที่กล่าวถึงอนาคตในอดีต ก็เป็นรูปอดีต (งงมั้ย) เช่น He was going to answer back, but he was stopped by his mother. (แปล: เขาเคยกำลังตอบกลับไป แต่ถูกแม่มาขัดจังหวะหรือมาหยุดไว้ก่อน)

1.4 Present Perfect Progressive tense (have, has) + been + Ving
ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ดำเนินเรื่อยมาจนปัจจุบัน และอาจดำเนินต่อไปในอนาคตโดยไม่มีระยะเวลาระบุเอาไว้ (ถ้ามีระยะเวลาระบุเอาไว้ ต้องใช้ Present Perfect tense แทน)

2. Past tense
2.1 Past simple tense [V2]

...ยังมีต่อ...
--------------------------------------
Tai

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น